Good ซื้อขายหุ้น กลยุทธ์

แนวทางในการเลือกกลยุทธ์ในการเก็บสินค้า 1313 เมื่อพูดถึงการเงินส่วนบุคคลและการสะสมทรัพย์สมบัติ มันง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไม: เล่นตลาดหุ้นเป็นที่น่าตื่นเต้น แต่ในการนั่งรถไฟเหาะตีลังกาทางการเงินนี้เราทุกคนต้องการประสบการณ์การเดินทางโดยไม่ต้องดาวน์ ในบทแนะนำนี้เราจะตรวจสอบกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการค้นหาหุ้นที่ดี (หรืออย่างน้อยที่สุดหลีกเลี่ยงหุ้นที่ไม่ดี) กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการสำรวจศิลปะการเก็บสต็อค - การเลือกหุ้นตามเกณฑ์ที่กำหนดโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของตลาด ก่อนที่จะสำรวจโลกกว้างใหญ่ของวิธีการเลือกสต็อกเราควรกล่าวถึงความเข้าใจผิดบางประการ นักลงทุนจำนวนมากที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในหุ้นสต็อกสินค้าเชื่อว่ามีกลยุทธ์ที่ไม่แน่นอนที่จะช่วยรับประกันความสำเร็จได้ ไม่มีระบบที่สามารถจะเข้าใจผิดได้ในการเลือกหุ้นหากคุณกำลังอ่านบทแนะนำนี้เพื่อค้นหาคีย์วิเศษเพื่อปลดล็อกความมั่งคั่งในทันทีขอโทษ แต่เราไม่ทราบว่าไม่มีคีย์ดังกล่าว นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณลาดเทขยายความมั่งคั่งของคุณผ่านการลงทุนในตลาดหุ้น ดีกว่าที่จะคิดว่าการเก็บสะสมเป็นศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์ มีเหตุผลหลายประการดังนี้: 131. ปัจจัยหลายอย่างมีผลต่อสุขภาพของ บริษัท ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างสูตรที่จะทำนายความสำเร็จ เป็นสิ่งหนึ่งที่รวบรวมข้อมูลที่คุณสามารถใช้งานได้ แต่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะกำหนดว่าตัวเลขใดมีความเกี่ยวข้อง 132. ข้อมูลจำนวนมากไม่มีตัวตนและไม่สามารถวัดได้ ด้านเชิงปริมาณของ บริษัท เช่นผลกำไรหาได้ง่าย แต่คุณจะวัดปัจจัยด้านคุณภาพเช่นพนักงานของ บริษัท ข้อดีในการแข่งขันชื่อเสียงและอื่น ๆ การรวมกันของรูปลักษณ์และสิ่งที่จับต้องได้ทำให้การเลือกหุ้นเป็นไปในเชิงอัตนัยและใช้งานได้ง่าย 133. เนื่องจากองค์ประกอบของมนุษย์ (ซึ่งมักไม่สมเหตุผล) ที่มีอยู่ในกองกำลังที่ผลักดันการลงทุนในตลาดหุ้นหุ้นไม่ได้ทำในสิ่งที่คุณคาดหวังไว้เสมอไป อารมณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและไม่อาจคาดเดาได้ และน่าเสียดายที่เมื่อความเชื่อมั่นกลายเป็นความกลัวตลาดหุ้นอาจเป็นสถานที่ที่อันตราย บรรทัดล่างคือไม่มีทางเลือกหุ้น ดีกว่าที่จะคิดกลยุทธ์หุ้นทุกอย่างมากเกินกว่าการใช้ทฤษฎี - เดาที่ดีที่สุดของวิธีการลงทุน และบางครั้งสองทฤษฎีที่เห็นได้ชัดอาจจะประสบความสำเร็จในเวลาเดียวกัน บางทีก็สำคัญพอ ๆ กับการพิจารณาทฤษฎีการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมกับมุมมองส่วนตัวกรอบเวลาความอดทนและระยะเวลาที่คุณต้องการทุ่มเทให้กับการลงทุนและการเลือกหุ้น เมื่อถึงจุดนี้คุณอาจถามตัวเองว่าเหตุใดการเลือกสต็อกจึงมีความสำคัญ ทำไมต้องกังวลกับเรื่องนี้ทำไมต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงทำคำตอบง่ายๆคือความมั่งคั่ง หากคุณกลายเป็นผู้ถือหุ้นที่ดีคุณสามารถเพิ่มความมั่งคั่งส่วนบุคคลของคุณเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น Microsoft ถ้าคุณได้ลงทุนผลิตบิลเลียดของ Bill Gates ในการเสนอขายหุ้น IPO ในปี 1986 และถือได้ว่าการลงทุนนั้นการกลับมาของคุณจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในบริเวณใกล้เคียง 35,000 ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2547 ในอีกระยะเวลา 18 ปีการลงทุน 10,000 ครั้งจะเป็นอย่างไร ได้กลายเป็นเย็น 3.5 ล้าน (ในความเป็นจริงคุณมีความสุขุมนี้ในตลาดวัวของปลาย 90s, ผลตอบแทนของคุณอาจได้รับยิ่งใหญ่.) กับผลตอบแทนเช่นนี้ไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุนยังคงล่าสำหรับ Microsoft ถัดไป โดยไม่ต้องกังวลใจต่อไปให้เริ่มต้นโดยการเจาะลึกลงไปในแง่มุมพื้นฐานและสำคัญที่สุดประการหนึ่งของการเลือกสต็อก: การวิเคราะห์พื้นฐาน ทฤษฎีที่มีอยู่ทั้งหมดของกลยุทธ์ที่เราสำรวจในบทแนะนำนี้ (ยกเว้นส่วนสุดท้ายในการวิเคราะห์ทางเทคนิค) แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันหลายอย่างระหว่างแต่ละกลยุทธ์พวกเขาทั้งหมดลงมาเพื่อค้นหาคุณค่าของ บริษัท เก็บไว้ในใจในขณะที่เราก้าวไปข้างหน้ากลยุทธ์การซื้อขายวันเริ่มต้นซื้อขายวันคือการกระทำการซื้อและขายหุ้นภายในวันเดียวกัน ผู้ค้ารายวันแสวงหาผลกำไรด้วยการใช้ประโยชน์จากเงินทุนจำนวนมากเพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในหุ้นหรือดัชนีที่มีสภาพคล่องสูง การซื้อขายวันอาจเป็นเกมที่อันตรายสำหรับผู้ค้ารายใหม่หรือผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามวิธีที่คิดอย่างดี ลองดูกลยุทธ์การซื้อขายทั่วไปบางวันที่สามารถใช้โดยผู้ค้าปลีก (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่: บทช่วยสอน: บทนำการวิเคราะห์ทางเทคนิค.) กลยุทธ์การรับหลักทรัพย์บางประเภทเป็นผู้สมัครที่เหมาะสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ในวัน พ่อค้ารายวันทั่วไปมองหาสองสิ่งที่มีความไม่แน่นอนและความผันผวน สภาพคล่องช่วยให้คุณสามารถเข้าและออกจากสต็อกได้ในราคาที่ดี (เช่น Spread ตึงตัวหรือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอของหุ้นและความผันผวนต่ำหรือความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังของการค้ากับราคาที่แท้จริง a. หุ้นเทรดที่) ความผันผวนเป็นเพียงการวัดราคารายวันที่คาดว่าจะเป็นช่วง rangethe ซึ่งมีผู้ประกอบการรายวันทำงาน ความผันผวนมากขึ้นหมายถึงกำไรหรือขาดทุนมากขึ้น (หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่การซื้อขายวัน: บทแนะนำหรือโฟเร็กวิว: Foreign Exchange) เมื่อคุณทราบว่าคุณกำลังมองหาหุ้นประเภทใดคุณจะต้องเรียนรู้วิธีระบุจุดเข้าที่เป็นไปได้ มีสามเครื่องมือที่คุณสามารถใช้ในการทำเช่นนี้ ได้แก่ แผนภูมิแท่งเทียนในวันที่ เทียนแสดงการวิเคราะห์ราคาวัตถุดิบ คำแนะนำระดับ IIECN ระดับ II และ ECN ให้คำแนะนำในการสั่งซื้อตามที่เกิดขึ้น บริการข่าวเรียลไทม์ ข่าวย้ายหุ้นบริการดังกล่าวบอกคุณเมื่อข่าวออกมา เมื่อพิจารณาแผนภูมิเชิงเทียนระหว่างวันให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้: มีการตั้งค่าเชิงเทียนหลายแบบที่เราสามารถหาจุดเริ่มต้นได้ หากใช้อย่างถูกต้องรูปแบบการกลับรายการ doji (เน้นสีเหลืองในรูปที่ 1) เป็นรูปที่น่าเชื่อถือที่สุด ภาพที่ 1: มองไปที่เชิงเทียน - doji ที่ไฮไลต์สัญญาณการกลับรายการ โดยปกติเราจะมองหารูปแบบเช่นนี้ด้วยการยืนยันหลายประการ: อันดับแรกเรามองหาการเพิ่มระดับเสียง ซึ่งจะแสดงให้เราเห็นว่าผู้ค้าจะสนับสนุนราคาในระดับนี้หรือไม่ โปรดทราบว่านี่อาจเป็นได้ทั้งบนเทียนเทียนหรือเทียนไขทันที ประการที่สองเรามองหาการสนับสนุนก่อนหน้าในระดับราคานี้ ตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้ต่ำ (LOD) หรือสูงของวัน (HOD) สุดท้ายเราจะดูสถานการณ์ระดับ II ซึ่งจะแสดงคำสั่งซื้อและขนาดคำสั่งซื้อทั้งหมดที่เปิดอยู่ ถ้าเราทำตามขั้นตอนสามขั้นตอนนี้เราสามารถระบุได้ว่า doji มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการตอบสนองจริงหรือไม่และเราสามารถดำรงตำแหน่งได้หากเงื่อนไขเป็นไปในทิศทางที่ดี (ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน Forex Walkthrough: Chart Basics (Candlesticks)) การหาเป้าหมายการกำหนดเป้าหมายราคาจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการซื้อขายของคุณ นี่คือภาพรวมคร่าวๆของกลยุทธ์การซื้อขายวันทั่วไปบางส่วน: การสแกนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งเกี่ยวข้องกับการขายเกือบจะทันทีหลังจากที่การค้ากลายเป็นผลกำไร ที่นี่เป้าหมายราคาเห็นได้ชัดก็คือเมื่อบรรลุผลกำไรแล้ว Fading เกี่ยวข้องกับการลัดวงจรหุ้นหลังจากที่ขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เป็นข้อสันนิษฐานว่า (1) เป็นการซื้อที่มากเกินไป (2) ผู้ซื้อรายแรกพร้อมที่จะเริ่มรับผลกำไรและ (3) ผู้ซื้อที่มีอยู่อาจกลัว แม้ว่าจะมีความเสี่ยง แต่กลยุทธ์นี้จะคุ้มค่ามาก ที่นี่เป้าหมายราคาคือเมื่อผู้ซื้อเริ่มก้าวเข้ามาอีกครั้ง กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากความผันผวนของหุ้นในแต่ละวัน นี้ทำโดยพยายามที่จะซื้อที่ต่ำในวันและขายที่สูงของวัน ที่นี่เป้าหมายราคาเป็นเพียงที่สัญญาณถัดไปของการกลับรายการโดยใช้รูปแบบเช่นเดียวกับข้างต้น กลยุทธ์นี้มักเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์หรือการเคลื่อนไหวในทิศทางที่แข็งแกร่งโดยได้แรงหนุนจากปริมาณมาก ผู้ประกอบการโมเมนตัมประเภทหนึ่งจะซื้อในข่าวประชาสัมพันธ์และเทรนด์จนกว่าจะมีสัญญาณการกลับรายการ ประเภทอื่น ๆ จะจางหายไปกระชากราคา ที่นี่ราคาเป้าหมายคือเมื่อปริมาณการเริ่มต้นลดลงและขาลงเทียนเริ่มปรากฏขึ้น คุณสามารถเห็นได้ว่าในขณะที่รายการในกลยุทธ์การซื้อขายประจำวันมักใช้เครื่องมือเดียวกับที่ใช้ในการซื้อขายทั่วไปความแตกต่างหลักจะหมุนเวียนไปเมื่อเวลาที่เหมาะสมในการออกคือ ในกรณีส่วนใหญ่คุณจะต้องการออกจากเมื่อความสนใจในหุ้นลดลงตามที่ระบุไว้ในระดับ IIECN และระดับเสียง (สำหรับอ่านเพิ่มเติมโปรดดูที่บทนำเกี่ยวกับประเภทของการซื้อขาย: การซื้อขายโมเมนตัมและการแนะนำประเภทการซื้อขาย: Scalpers.) การกำหนด Stop Loss เมื่อคุณทำการค้าขายกับ margin คุณมีความเสี่ยงที่จะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงกว่าผู้ค้าทั่วไป ดังนั้นการใช้ stop-loss ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อ จำกัด การสูญเสียตำแหน่งในการรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญเมื่อวันซื้อขาย กลยุทธ์หนึ่งคือการตั้งค่าการสูญเสียทั้งสองจุด: 1. คำสั่งหยุดขาดทุนทางกายภาพที่อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของคุณ เป็นหลักนี้เป็นส่วนใหญ่ที่คุณต้องการจะสูญเสีย 2. ชุดการหยุดการขาดทุนทางจิตที่จุดที่เกณฑ์การเข้าร่วมของคุณถูกละเมิด ซึ่งหมายความว่าหากการค้าทำให้การหมุนที่ไม่คาดคิดคุณจะออกจากตำแหน่งทันที ผู้ค้าปลีกรายวันมักมีกฎอีกอย่างหนึ่ง: ตั้งค่าขาดทุนสูงสุดต่อวันที่คุณสามารถจ่ายได้ทั้งทางการเงินและทางจิตใจเพื่อให้ทนต่อ เมื่อใดก็ตามที่คุณกดจุดนี้ใช้เวลาที่เหลือของวันออก ผู้ค้าที่ไม่มีประสบการณ์มักจะรู้สึกว่าต้องสร้างความสูญเสียก่อนวันสิ้นสุดและท้ายที่สุดก็เสี่ยงต่อความไม่จำเป็น (เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมโปรดดูที่คำสั่ง Stop Loss เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้) การประเมินประสิทธิภาพการปรับแต่งหลายคนได้รับในการซื้อขายวันที่คาดหวังให้ผลตอบแทนสามหลักทุกปีด้วยความพยายามน้อยที่สุด ในความเป็นจริงผู้ค้าหลายวันเสียเงิน อย่างไรก็ตามโดยการใช้กลยุทธ์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนที่คุณพอใจคุณสามารถเพิ่มโอกาสในการตีราคาได้ ดังนั้นคุณจะประเมินประสิทธิภาพอย่างไรผู้ค้ารายวันส่วนใหญ่ทำไม่ได้มากนักโดยการติดตามเปอร์เซ็นต์ของกำไรหรือขาดทุน แต่โดยการยึดติดกับกลยุทธ์ของแต่ละบุคคลอย่างใกล้ชิด ในความเป็นจริงการทำตามกลยุทธ์ของคุณมากกว่าการพยายามไล่ล่าผลกำไรเป็นเรื่องสำคัญมาก การเก็บข้อมูลนี้เป็นความคิดของคุณทำให้ง่ายต่อการระบุปัญหาที่มีอยู่และวิธีแก้ปัญหา การซื้อขายช่วงล่างเป็นทักษะที่ยากในการควบคุม เป็นผลให้หลายคนที่พยายามจะล้มเหลว แต่เทคนิคที่อธิบายไว้ข้างต้นสามารถช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้และมีการปฏิบัติที่เพียงพอและมีการประเมินประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอคุณสามารถเพิ่มโอกาสในการตีราคาได้อย่างมาก (สำหรับการอ่านที่เกี่ยวข้องโปรดดูที่: คุณจะทำกำไรให้เป็นผู้ประกอบการรายวัน) กลยุทธ์การซื้อขายลิขสิทธิ์ 2017 MarketWatch, Inc. สงวนลิขสิทธิ์ เมื่อใช้ไซต์นี้ถือว่าคุณยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ นโยบายความเป็นส่วนตัวและนโยบายคุกกี้ ข้อมูลในวันที่จัดทำโดย SIX Financial Information และอยู่ภายใต้เงื่อนไขการใช้งาน ข้อมูลในอดีตและปัจจุบันในปัจจุบันที่จัดทำโดย SIX Financial Information ข้อมูลในวันล่าช้าตามข้อกำหนดการแลกเปลี่ยน SPDow Jones Indices (SM) จาก Dow Jones Company, Inc. เครื่องหมายคำพูดทั้งหมดเป็นสกุลเงินท้องถิ่น ข้อมูลการขายล่าสุดล่าสุดตามเวลาจริงของ NASDAQ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัญลักษณ์การซื้อขายของ NASDAQ และสถานะทางการเงินในปัจจุบัน ข้อมูลในวันดาล่าช้า 15 นาทีสำหรับ Nasdaq และ 20 นาทีสำหรับการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ SPDow Jones Indices (SM) จาก Dow Jones Company, Inc. ข้อมูลของ SEHK ในวันที่จัดทำโดย SIX Financial Information และอย่างน้อย 60 นาทีล่าช้า คำพูดทั้งหมดที่อยู่ในเวลาท้องถิ่นแลกเปลี่ยน. MarketWatch เรื่องเด่น